วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

➽ I am so : Kaisoo ◆ And I know you wonder too




EP 57 : And I know you wonder too



            คราวนี้ไม่เพียงแค่การจูบที่หน้าผากอีกต่อไป ในตอนนั้นเองที่ริมฝีปากของชายหนุ่มค่อยๆเคลื่อนลงมาจนเจอเข้ากับริมฝีปากของคยองซู ไม่รอช้า จงอินก็ค่อยๆบรรจงจูบลงไปบนปากนั้นเบาๆ พร้อมกับโอบร่างกายบอบบางให้แนบชิดกับร่างกายของตนเองมากยิ่งขึ้น
            ปล่อยใจให้ลอยไปโดยที่ไม่สนว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ขอเพียงแค่ตอนนี้เขายังมีคยองซูอยู่ข้างๆ คอยอยู่ตรงนี้เป็นที่เหนี่ยวรั้งหัวใจของเขาเอาไว้ก็เพียงพอแล้ว 
            “อือ...อื้ม..” เสียงของเหลวที่กำลังผสมปนเปกันยิ่งทำให้จงอินหยุดตัวเองเอาไว้ไม่ได้ ท่าทางการจูบที่ช่ำชองของร่างสูงช่างเทียบกับการจูบแบบเด็กน้อยของคยองซูไม่ได้เลยสักนิด จงอินเป็นฝ่ายนำและให้อีกคนเป็นฝ่ายตามตลอด
            จนกระทั่งร่างกายบางถูกดันให้นอนหงายลงจนแผ่นหลังแนบชิดกับที่นอนอีกครั้ง คราวนี้ร่างสูงใหญ่ก็เริ่มขยับกายขึ้นมาคร่อมร่างของคยองซูทันที โดยที่จูบระหว่างเราก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ คยองซูไม่ได้ขัดขืนเพียงเพราะว่ากำลังถูกความสุขครอบงำความรู้สึกทุกอย่างเอาไว้
            ไม่เคยคิดเสียดายร่างกาย หากว่ามันจะต้องตกไปเป็นของพี่จงอินในตอนนี้ เพราะถ้ามันเป็นอีกหนึ่งความสุขของพี่ เขาก็ยอมมอบกายให้เป็นของพี่อยู่แล้ว
            “ขอได้ไหม...” ผละจูบออกแล้วเคลื่อนใบหน้าไปกระซิบที่ข้างหูพอให้ได้ยินกันสองคน
            คำพูดที่ขออนุญาตจากปากของจงอินเล่นเอาขนในกายของคยองซูลุกขึ้นมาจนห้ามไม่อยู่ มันวาบหวามหัวใจแปลกๆ ดวงตากลมโตได้แต่จ้องมองร่างที่คร่อมทับกายของเขา ไม่มีคำพูดใดๆนอกจากความอบอุ่นที่รับรู้ได้จากสายตาของจงอินที่พยายามส่งผ่านมาให้กับเขาพร้อมกับถามย้ำอีกครั้งว่า
            “ได้ไหม?” คยองซูชั่งใจอยู่เพียงครู่ แต่สุดท้ายก็ยอมพยักหน้าตอบรับช้าๆเท่ากับว่าอีกคนยินยอมแล้วที่จะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
            จงอินที่เห็นว่าคยองซูไม่ได้ว่าอะไร และใจของเขาก็อยากที่จะเป็นเจ้าของร่างกายนี้มานานแล้วก็เลยไม่รอช้าที่จะมอบจูบลงไปอีกครั้ง มือข้างหนึ่งพยายามลูบต้นแขนของร่างเล็กเพื่อให้ผ่อนคลายตัวเอง ส่วนอีกข้างก็ยันกับหมอนใบใหญ่เอาไว้ 
            ร่างสองร่างที่พยายามขยับกายเข้าหากัน พร้อมกับเสียงร้องครางอยู่ในลำคอกับค่ำคืนที่แสนเงียบงัน ทั้งทีที่เราก็เพิ่งจะทะเลาะกันไปแต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้เราจบเรื่องราวทุกอย่างบนเตียงหลังนี้แทน
            “อื้ม...” เรือนร่างที่บอบบางขยับการบิดเร้าไปมา ในยามที่เสื้อยืดที่ตัวเองนั้นสวมอยู่ถูกถอดออกไปจากทางศีรษะ ก่อนที่กางเกงนอนขาสั้นที่เป็นของจงอินจะถูกถอดออกไปตามๆกัน จนเหลือแค่เพียงชั้นในเพียงตัวเดียวที่ยังคงปกปิดเรือนร่างของคยองซูเอาไว้
            ในส่วนของจงอินที่เมื่อหลังจากจัดการเสื้อผ้าของร่างเล็กออกไปจนหมดแล้ว ร่างสูงก็หยัดกายขึ้นมา พร้อมกับถอดเสื้อยืดออกจากทางศีรษะตามมาด้วยกางเกงนอนขายาวของเขาที่ถูกรูดออกไปพร้อมๆกับชั้นในที่ใส่เอาไว้อยู่
            จนในที่สุดส่วนนั้นที่กำลังขยายใหญ่อยู่ตรงใจกลางของร่างกายจงอินก็เริ่มผงาดตัวขึ้นมา แสดงถึงความยิ่งใหญ่โดยที่คยองซูเองก็ไม่ทันได้สังเกตถึงขนาดของมันเลยสักนิด นี่เป็นครั้งแรกระหว่างเราและจงอินต้องการให้ทุกอย่างดูนุ่มนวลมากที่สุด
            แม้ว่าคนอื่นจะเข้าใจผิดคิดว่าเราเคยมีอะไรกันหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เลย... คยองซูชอบมานอนค้างที่ห้องนี้ก็จริง แต่มากที่สุดก็แค่เคยจูบกันตอนเมาแล้วก็จบกันไป แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ความสัมพันธ์ของเรามันกำลังจะพัฒนาไปได้มากกว่านั้น
            “อาจจะเจ็บหน่อยนะ...” เอ่ยบอกเอาไว้ก่อนที่ร่างกายบางจะถูกพลิกกายให้นอนคว่ำพร้อมกับดึงร่างขึ้นมาให้คุกเข่าใช้สองมือน้อยๆยันกับที่นอนเอาไว้ โก่งบั้นท้ายที่มีชั้นในตัวบางปกปิดเอาไว้อยู่ให้หันเข้าหาร่างสูงที่คุกเข่ารออยู่ตรงด้านหลัง 
            ใบหน้าคมคายก้มลงใช้ริมฝีปากขบเม้มไปตามหัวไหล่แคบค่อยๆไล่เลียริมฝีปากมาเรื่อยๆตามแผ่นหลังที่ตรงกลางมีร่องลึกเป็นทางยาวที่ตอนนี้กำลังถูกสัมผัสของจงอินเล้าโลมเข้ามาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงบั้นท้ายมนที่น่าสัมผัสเสียจนคนตัวสูงอดใจไม่ไหว
            ต้องใช้มืดรูดชั้นในตัวนั้นลงมา จนเผยให้เห็นช่องทางรักเขาไม่เคยสัมผัสมันเลยสักครั้ง ปลายนิ้วเรียวยาวลูบวนที่แก้มก้นทั้งสองข้างไปมา บีบคลึงขย้ำจนพอใจ ก่อนที่แกนกายที่กำลังขยายใหญ่ของตนเองจะถูกจับประคองขึ้น แล้วถูส่วนปลายวนรอบๆช่องทางนั้นทันที
            “อะ...อื้อ อ...” อาการเสียววาบในช่องท่องแล่นวนไปทั่วจนเสียงร้องของคยองซูเริ่มดังขึ้นมา ในครานั้นจงอินก็พยายามโถมกายลงไปทาบทางแนบแผงอกกับแผ่นหลังเนียนของคนน้องเอาไว้ เลื่อนปลายนิ้วไปบดขยี้ที่ยอดอกไปพลางๆ จนเสียงร้องที่ดูน่าอายส่งเสียงดังออกมาอีกจนได้
            “อ๊ะ..อ๊ะ..สะ..เสียว”
            “อืม” จงอินไม่ได้พูดอะไรอีก ร่างสูงเพียงแค่พยายามจูบลงไปที่ท้ายทอยของคนตัวเล็กอีกครั้ง แล้วค่อยๆเลื่อนมือของตนไปจับส่วนแข็งขืนของตัวเองขึ้นมาถูวนอีกสองสามรอบพอให้ช่องทางนั้นคุ้นชินกับส่วนยิ่งใหญ่ของเขาอีกสักหน่อย
            จนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว จงอินก็ค่อยๆขยับกายเข้าหาดันส่วนนั้นเข้าไปด้านในได้เพียงครึ่งก็ต้องหยุดร่างกายลงเพียงเพราะเสียงร้องของคยองซูที่ร้องดังขึ้นมาจนเขาตกใจ
            “โอ๊ย..อื้อ—“
            พยายามยั้งใจไม่ให้เผลอกระทำการรุนแรงไปมากกว่านี้ รอให้ร่างกายของคยองซูปรับตัวได้ก่อนที่ส่วนนั้นจะค่อยๆขยับเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ อาจจะช้าแต่เขาก็อยากให้ชัวร์ว่าน้องจะไม่เจ็บ จนในที่สุด ร่างกายของทั้งสองก็สามารถหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ในที่สุด
            จากเสียงร้องในตอนนี้เริ่มแปรเปลี่ยนมาเป็นเสียงของเนื้อที่แนบเนื้อ เมื่อยามที่ต้นขาของจงอินขยับไปตามจังหวะที่เอวกำลังเคลื่อนที่และส่วนนั้นก็กำลังขยับเข้าออกเป็นจังหวะ มือหนาค่อยๆเลื่อนมาจับประคองที่เอวคอดของคยองซูเอาไว้แล้วจับกระแทกรัวๆ จนเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดเริ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ
            “อ๊ะ อ๊ะ....” ยิ่งเร็วยิ่งเจ็บ เพราะไม่มีแม้แต่สิ่งที่จะคอยชโลมเพื่อหล่อลื่นให้ขยับเข้าออกได้ง่ายไปมากกว่านี้ มันคือความเจ็บปวด และนี่คือเรื่องจริงที่ว่าตอนนี้คยองซูได้ตกเป็นของพี่จงอินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
            “เรียกชื่อพี่ได้ไหม อ่า...” โน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูของน้องอีกครั้ง เสียงหอบหายใจของทั้งสองยิ่งทให้อารมณ์เซ็กส์ของเราเริ่มร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
            “พ..พี่...อ๊ะ... พี่จงอิน” ดั่งใจปรารถนา เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองแว่วดังขึ้นมา ร่างกายของคยองซูก็ถูกดันให้นอนหงายลงกับที่นอนอีกครั้ง โดยที่ส่วนนั้นก็ยังไม่ทันได้หลุดออกไปจากร่างกายของคนตัวเล็กเลยสักนิด
            จงอินใช้มือจับเรียวขาขาวพาดบ่าของตนเอาไว้ ครานี้เริ่มโถมกายเข้าหาแบบเร็วไว ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เพียงเพราะตอนนี้ข้างในกายของเขามันไม่อาจหักห้ามใจไว้ได้อีกแล้ว ทุกการกระทำ ทุกวินาทีที่เราได้ร่วมรักกัน มันคือความสุข และจงอินก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคยองซูนี่แหละ คือความสุขของเขา...
            “อ๊ะ..อ๊ะ เราไม่ไหวแล้ว อื้อ เราเจ็บ”
            “อดทนอีกนิดนึง อ่า ใกล้แล้ว” พูดพร้อมกับก้มลงไปมองส่วนนั้นที่กำลังเชื่อมร่างกายของเราเอาไว้อยู่ จงอินพยายามขยับกายเข้าออกแบบรัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ มือข้างหนึ่งที่ว่างก็ขยับไปปรนเปรอที่ส่วนนั้นของคยองซูด้วยเช่นกัน รูดรั้งไปพร้อมๆกัน เพื่อที่จะได้ไปถึงจุดหมายในไม่ช้านี้
            “อ่า คยองซูอ่า...ซี๊ด...” ทั้งสุขและเสียวไปในเวลาเดียวกัน ไม่รู้ทำไมเขาถึงอยากจะทำให้ค่ำคืนนี้มันยาวนานกว่านี้นัก 
            ไม่อยากให้คืนนี้มีแค่ 24 ชั่วโมง ช่วยต่อเวลาออกไปอีกได้ไหม ... อยากจะลืมโลกความจริงแล้วปล่อยตัวเองให้หลับใหลอยู่ในโลกแห่งความฝัน ที่มีแค่เขาและก็คยองซูอยู่ด้วยกัน ไม่อยากรู้แล้วว่าโลกภายนอกเป็นเช่นไร ใช่...มันโหดร้าย และเขาไม่อยากรับรู้มันอีกต่อไปแล้ว
            ถ้าหากเขาเจอคยองซูเร็วกว่านี้ ก่อนที่ความคิดอันเลวร้ายจะเข้ามาในหัวของเขา เขาก็คงไม่เลือกทางเดินแบบนี้ เส้นทางที่ไม่อาจรู้ได้เลยว่า วันหนึ่งเขาจะมีชีวิตกลับมาอยู่กับคยองซูผู้ชายที่เขารักมากที่สุดได้อีกหรือไม่
            “อ๊ะ!” เสียงร้องครวญครางเพียงครั้งสุดท้ายพร้อมกับน้ำสีขาวขุ่นที่พุ่งเลอะเปรอะเปื้อนจนเต็มหน้าท้องบาง ในขณะเดียวกันที่ช่องทางด้านหลังของคยองซูก็เต็มไปด้วยน้ำจากกายของจงอินที่ไหลเอ่อออกมาจนล้น 
            เสียงหอบหายใจของทั้งสองคนดังขึ้นพร้อมๆกัน ใบหน้าของคยองซูมีเพียงแค่รอยยิ้มที่ยังคงติดอยู่ที่มุมปากเสมอ มันยังเป็นรอยยิ้มที่สวยงามเช่นเดียวกับจงอินที่เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็อดยิ้มตามไม่ได้ และก็ได้แต่ชื่นชมคยองซูอยู่ในใจว่า ขอบคุณที่ยังเป็นคนเก่งของพี่ตลอดมานะ...

วันศุกร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2560

➽ No One : Taoho ◆ Cheating

NC            




            “ฉันรู้ว่ามันผิด ฉันขอโทษ”
            “อ๊ะ!”
            เสียงร้องเบาๆที่เกิดจากอาการสะดุ้งตกใจ เมื่อจู่ๆขาทั้งสองข้างก็ถูกจับพาดขึ้นไปบนบ่ากว้างอีกครั้ง ทั้งๆที่สายตาของจุนมยอนตอนนี้ดูเหนื่อยล้าเต็มทนแล้ว แต่ทว่าไม่รอให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ มือหนาของคนที่ตัวโตกว่า จับเอาท่อนกายของเขาจ่อไปที่ช่องทางเดิมที่เคยสัมผัสอีกครั้ง ก่อนที่จะสอดใส่มันเข้าไปอีกรอบ
            เพราะความที่ว่าช่องทางตรงนั้นเคยผ่านการใช้งานมาแล้ว ทำให้ครั้งนี้มันดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากเลย ที่จะทำมันอีกครั้งหนึ่ง จื่อเทาก้มลงไปมองส่วนนั้นของตัวเองที่กำลังเชื่อมอยู่กับร่างกายของจุนมยอน มองดูมันขยับเข้าออกช้าๆ ในใจก็เอาแต่คิดอย่างเห็นแก่ตัวว่าให้มันผ่านวันนี้ไปก่อน หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรค่อยว่ากันอีกที
            “อ๊ะ ทะ...เทา”
            “อ่า” เสียงเนื้อที่กระทบกันจนเกิดเป็นเสียงดัง หากใครได้ยินคงจะเข้าใจว่าตอนนี้เทากำลังทำเรื่องอย่างว่ากับแฟนสาวของเขา ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วคนที่นอนใต้ร่างกลับไม่ใช่จียอน
            แต่เป็นจุนมยอนต่างหาก..
            “อื้อๆๆ”
            เสียงร้องครางเพื่อช่วยสร้างอารมณ์ค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ ความเจ็บปวดเริ่มทุเลาลงแล้ว เหงื่อมากมายค่อยๆไหลลงมาตามขมับจนมือบางต้องเอื้อมขึ้นไปเช็ดให้เบาๆ แต่ไม่ทันที่จุนมยอนจะได้จัดการเหงื่อที่ไหลย้อยลงมาบนใบหน้าของจื่อเทา
            ร่างสูงก็โน้มตัวลงมาจูบที่ข้างแก้มนวลเนียนอีกครั้ง ร่างกายก็ยังคงขยับอยู่จนกระทั่งเวลาผ่านไปสักห้านาทีได้ จุนมยอนก็เป็นฝ่ายพลิกตัวขึ้นมาแล้วกดร่างของจื่อเทาให้ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแทนเขาทันที
            “แน่ใจนะว่าจียอนจะไม่กลับมาที่นี่ อ๊ะ..”
            ทันทีที่พลิกกายลงนอน จุนมยอนก็เป็นฝ่ายขึ้นคร่อมแทน ไม่เพียงเท่านั้น ท่อนกายที่หลุดออกตอนนี้กลับถูกสอดเข้าไปในร่างเพรียวบางอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เขาจะขึ้นให้เพราะเห็นว่าอีกคนเริ่มจะหมดแรงแล้ว
            “มีอะไรกับฉัน อย่าเพิ่งพูดถึงคนอื่นได้ไหม”
            “เป็นชู้กัน ฉันว่ามันก็สนุกดีเหมือนกันนะ” จุนมยอนเลิกคิ้วขึ้นสูง พูดออกไปอย่างนึกสนุก
            ทั้งสองไม่แม้แต่จะคิดว่าถ้าหากจียอนกลับมาตอนนี้แล้วจะทำยังไง ในสภาพแบบนี้คนเป็นแฟนไม่มีทางรับได้หรอก แต่ทว่านั่นแหละคือสิ่งที่จุนมยอนอยากให้มันเกิดขึ้น
            เขาอยากให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาเห็น เพื่อที่จะประกาศให้รู้ไปเลยว่า ผู้ชายคนนี้มันไม่ได้รักเธอจริง
            “ไม่สนุกหรอก ถ้าชู้คนนั้นไม่ใช่นาย..” มือหยาบกร้านถูกส่งขึ้นมาลูบแก้มบางเบาๆเพื่อให้กำลังใจอีกคนที่เอาแต่ขย่มกายบนเรือนร่างของเขาอยู่
            คิดไปคิดมา เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว หากว่าถ้าพวกพี่น้องของเทารู้เรื่องนี้เข้ามันต้องห้ามแน่ๆ เพราะทุกคนรู้ว่าที่ผ่านมาเขารักจียอนมากแค่ไหน ตัวของเทาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เขาหลงใหลในตัวของจุนมยอนได้มากถึงเพียงนี้
            “ชอบฉันแล้วสินะ หึ”
            “เรียกว่าหลงได้ไหม” รอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ค่อยๆแสดงออกมาจนจุนมยอนต้องแค่นยิ้มกลับไป
            จริงๆแล้วเรื่องนี้คนผิดคือเราทั้งสอง ไม่ต้องโทษใครเลย ผิดชอบชั่วดีก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วแต่ก็นั่นแหละ ในเมื่อเราเดินทางมาจนถึงขนาดนี้แล้ว จะให้หยุดก็คงจะยาก
            “อื้อ อื้อ” สะโพกนิ่มค่อยๆเน้นลงไปช้าๆ แต่ค่อนข้างแรง จนตอนนี้ใบหน้าของผู้ชายที่มีร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเอาแต่นิ่วหน้าเพราะความทรมาน หากจะถามว่าการมีอะไรกันระหว่างจียอนกับจุนมยอนใครเด็ดกว่ากัน
            ถ้าเมื่อก่อนเขาจะตอบว่าเป็นจียอนอย่างไม่ลังเล แต่ถ้าเป็นตอนนี้เขาขอบอกว่าจุนมยอนนั้นเด็ดไม่ใช่เล่นเลย...
            “อ๊ะ อ๊ะ”
            “อีกนิด! ฉันใกล้แล้ว”
            “เทา..อื้อ! เทา...”
            “เรียกชื่อฉันอีกสิ
            “จ..จื่อเทา ฉันไม่ไหวแล้ว” ในระหว่างที่จุนมยอนกำลังเร่งความเร็วในการขย่มกายให้เร็วมากขึ้นไปอีก มือบางก็เลื่อนไปลูบที่ท่อนเนื้อของตนที่มันขยายตัวชูชันมานานแล้ว ค่อยๆรูดรั้งไปตามจังหวะแรงขย่มของตัวเอง หนักขึ้นๆเรื่อยๆ จนกระทั่งความอดทนหมดลง
            น้ำสีขาวขุ่นในตัวของจุนมยอนก็พวยพุ่งจนเปรอะเปื้อนที่หน้าท้องสีแทนจนชวนให้เกิดอารมณ์ขึ้นอีก แต่ตอนนี้ทั้งสองเริ่มหมดแรงแล้ว ในตอนสุดท้ายที่เทาเริ่มรู้ตัวว่าไม่ไหวแล้ว จึงออกแรงช่วยกระแทกกายขึ้นไปแรงขึ้นสองสามทีจนกระทั่งร่างกายปลดปล่อยน้ำสุดท้ายเข้าไปในร่างของจุนมยอน
            จนร่างสองร่างกระตุกอยู่สองสามที่ จุนมยอนก็ทิ้งตัวลงนอนซบอกของร่างสูงทันที
            “เสียว...”
            “แล้วชอบไหม?” มือหนาเลื่อนขึ้นมาลูบหัวคนที่ตัวเล็กกว่าเบาๆ ในขณะที่ส่วนนั้นยังไม่ได้ถูกดึงออกมาจากกายของจุนมยอนเลย
            “บอกไม่ได้ ถ้าได้ลองอีกถึงจะบอกว่าชอบไหม”
            เหมือนเป็นการโยนระเบิดเอาไว้ลูกใหญ่ว่ามีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งสอง ซึ่งมันก็ทำให้จื่อเทารู้สึกคิดหนักเพราะใจหนึ่งหากจะถามว่าอยากทำต่อไหม ผู้ชายอย่างเขาก็ตอบได้เลยว่าอยาก
            แต่ในขณะเดียวกันตัวเองก็ยังไม่เลิกกับจียอน มันเลือกยาก แต่ถ้าจะให้เลือกทั้งสองอย่างมันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก

            “ฉันหวังว่าสักวัน ฉัน...” 

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

➽ Again : Chenmin ◆ Who are you

NC



            เสียงจูบแก้มที่เหมือนเป็นการฟัดไปมาเพราะความหมั่นเขี้ยวในความนุ่มนิ่มของคนด้านล่าง จงแดค่อยๆกดจมูกไปตามกรอบหน้าได้รูปด้วยน้ำหนักแรงที่ไม่มากนักเพราะก็เกรงกลัวว่าอีกคนจะช้ำ
            แต่ทว่าดูเหมือนมินซอกจะเริ่มหลงใหลในการกระทำระหว่างเขาทั้งสองอยู่มาก วงแขนเล็กค่อยๆเลื่อนขึ้นไปโอบรัดกายหนาเอาไว้แล้วเอียงลำคอให้อีกคนได้ก้มหน้าลงมาซุกซบได้ถนัดๆ
            เช่นเดียวกันมือข้างที่ว่างอยู่ของจงแดก็ค่อยๆลูบไล้ไปตามท่อนขาขาวๆของมินซอกช้าๆ ลูบเนื้อเนียนไปมาจนกระทั่งกางเกงนอนตัวบางถูกรั้งลงมาจากสะโพก รูดมันลงไปคาอยู่ที่ข้อเท้า นั่นจึงทำให้จงแดรับรู้ได้ทันทีเลยว่ามินซอกกำลังมีอารมณ์ร่วมกับเขาเช่นกัน
            “คิดถึงเหรอ” จงแดแกล้งกระซิบให้อีกคนเขินเล่นๆ
            เพียงเพราะความเปียกชื้นมันบดเบียดอยู่ตรงหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของจงแด ไม่เพียงแต่ทำให้จงแดรู้ว่ามินซอกไม่ได้ใส่ชั้นในเอาไว้ด้านในเพราะร่างเล็กใส่แค่กางเกงนอนตัวบางเพียงตัวเดียวเท่านั้น
            “อื้ม คิดถึงมาก”
            “มากแค่ไหนครับ” จงแดค่อยๆตะล่อมถามอีกคนไปเรื่อยๆ ในขณะที่มือก็ยังสาละวนอยู่ที่ซอกขาของมินซอกไม่ละไปไหน
            “ทำเราเถอะ เราไม่งอแงแล้ว”
            เขินแทบจะเป็นบ้าแต่ก็กล้าพูดมันออกไป มินซอกไม่รู้ว่าเขาคิดถูกหรือเปล่าที่เผลอพูดอนุญาตเช่นนั้นไปทั้งๆที่ก็ยังไม่รู้ชะตากรรมเลยว่าคืนนี้จะโดนอะไรกันแน่ ยิ่งในยามที่ขาทั้งสองข้างของเขาถูกรั้งให้ขึ้นไปพาดบ่ากว้างของจงแดเอาไว้ เพียงเท่านั้นความเขินอายก็เก็บซ่อนมันเอาไว้แทบไม่อยู่
            “ขอโทษที่เมื่อก่อนไม่เคยรับฟังอะไรเลยนะ”
            “อื้ม” มินซอกพยักหน้า
            แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาขอโทษกันสักหน่อยนะ ร่างบางคิดในใจ พลันสายตาก็เหลือบขึ้นไปมองคนด้านบนที่เอาแต่บีบนวดต้นขาของเขาไปพลางๆ จนกระทั่งมือของจงแดสอดเข้าไปที่ใต้หมอนใบใหญ่ที่วางอยู่ข้างๆหมอนที่มินซอกนอนอยู่ ในตอนนั้นเองขวดอะไรบางอย่างก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของมินซอกทันที
            “จ..เจล?”
          “ขอโทษที่ไม่ได้บอก แต่มาทะเลกันเราควรมีติดห้องเอาไว้ มันก็ไม่เสียหายนะ”
            ร้ายกาจมาก... มินซอกไม่รู้มาก่อนว่าอีกคนแอบซ่อนขวดเจลเอาไว้ที่ใต้หมอนอีกใบอยู่ก่อนแล้ว ถ้าเช่นนั้นก็แปลว่าการที่มินซอกเดินเข้ามาหาอีกคนในห้องเมื่อครู่นี้ ต่อให้ไม่บอกให้ทายาให้สุดท้ายตัวเขาก็ต้องโดนอีกคนทำแบบนี้อยู่ดี
            นายพลาดแล้วแหละมินซอก..
            “คือ นายไปเอามันมาจากไหน”
            “ซื้อ นี่ขวดใหม่เลยนะ ที่ห้องก็ยังเหลืออยู่”
            “พ..พูดอะไรน่ะ”
            จงแดไม่ควรพูดเรื่องนี้ออกมาตอนนี้ ถึงมันจะเกี่ยวกันแต่ก็ควรที่จะรีบทำมันให้เสร็จๆก่อนที่เขาจะทนไม่ไหวดีกว่าไหม ร่างบางคิดได้เช่นนั้นมือบางก็ยื่นไปจับขวดเจลนั้นมาแล้วเปิดฝาบีบมันใส่ฝ่ามือของร่างสูงทันที เพียงเพราะความเขินที่มีมากเกินไปทำให้ตัวมินซอกเองเริ่มทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ทันคิดออกมาจนได้
            “บังคับอย่างนี้เลยเหรอ ใจเย็นสิที่รัก ได้ทำแน่ๆ”
            พูดจบมือหยาบกร้านก็ค่อยๆควักเอาส่วนนั้นของตัวเองออกมา ก่อนที่จะใช้มือข้างที่มีเจลอยู่เต็มมือรูดรั้งมันขึ้นลงไปมาอย่างช้าๆ เจลส่วนที่เหลือที่มันมากไปก็ค่อยๆป้ายลงไปที่ปากทางเข้าของมินซอกทันที
            “อ๊ะ..ค่อยๆนะ” มินซอกร้องออกมาเพราะความเย็นของมันทำให้ตัวเขาสะดุ้ง
            “ลึกอีก?
            “อ..อื้ม” ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรออกไป ทำได้เพียงแค่หลับตาแล้วพยักหน้าขึ้นลงตามที่อีกคนถาม
            ร่างเล็กได้แต่ร้องครวญครางออกมายามที่ก้านนิ้วยาวค่อยๆสอดเข้าไปที่ช่องทางนั้นจนสุดข้อนิ้ว ยิ่งทำให้ความเสียวบวกกับความปวดหนึบที่ช่องทางด้านหลังยิ่งเพิ่มมากขึ้น
            ปกติแล้วจงแดไม่ใช่คนที่ถนอมอะไรเขาขนาดนั้น อย่างมากก็แค่แก้ผ้าให้ แล้วป้ายเจลลงไปหลังจากนั้นก็สอดใส่เข้ามาเลย นั่นคือสิ่งที่มินซอกได้รับมันมาตลอดเวลาที่เราคบกัน... ในส่วนของการมีอะไรกันครั้งแรกของเราสองคนน่ะเหรอ คงจะเป็นตอนมอต้นหลังจากที่เราคบกันได้เพียงสามเดือน
            มันอาจจะดูเร็วเกินไปใช่ไหมล่ะ แต่ก็นั่นแหละมินซอกไม่ใช่คนที่ตามใครทันขนาดนั้น แค่จงแดบอกว่าทำกันมันไม่เสียหายอะไรหรอกแล้วอีกอย่างเราก็คบกันแล้วมินซอกก็เป็นผู้ชายจงแดก็ผู้ชายทำไปมันไม่ท้องหรอก
            ครั้งแรกของเราจึงเกิดขึ้นที่ห้องน้ำแห่งหนึ่งในโรงเรียนช่วงเวลาที่นักเรียนทุกคนกลับบ้านกันไปแล้ว
            “อ๊ะ...”
            “นึกถึงครั้งแรกของเราอยู่เหรอ”
            เหมือนอ่านใจออก จงแดเอ่ยถามพร้อมกับจับประคองท่อนกายของเขาที่ชุ่มไปด้วยเจลไปจ่อเอาไว้ที่ปากทางทันที
            “อืม”
            “ตอนนั้นตื่นเต้นดีเนอะ”
            มินซอกไม่ได้ตอบอะไร เปลือกตาสีอ่อนค่อยๆลืมขึ้นมาแล้วจ้องมองไปที่คนด้านบนที่กำลังสอดแทรกส่วนนั้นเข้ามาอย่างเชื่องช้าทำให้จากสีหน้าของมินซอกที่ดูราบเรียบในตอนแรก แต่ทว่าในตอนนี้ใบหน้าหวานกลับค่อยๆแสดงความเจ็บปวดออกมาทีละนิดๆ จนในที่สุดเมื่อส่วนนั้นสอดแทรกเข้ามาจนเกือบสุดเสียงร้องของมินซอกก็ดังขึ้นมาทันที
            “อ๊าสส์!!!”
          ความเจ็บปวดแล่นผ่านสะโพกขึ้นมาจนสั่นสะท้านไปทั้งกายบาง ยิ่งตอนที่สะโพกสอบกระแทกเข้าใส่ ยิ่งทำให้มินซอกรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน แต่ก็มีความสุขเหลือเกินที่ได้ทำแบบนี้กับคนที่เขารัก
            “อ๊ะ...จงแด”
            “เจ็บไหม ไม่ไหวบอกนะ”
            เลื่อนใบหน้าลงมาประกบจูบเอาไว้ แล้วกระแทกกระทั้นกายหนาเข้าหาอีกคนเต็มแรงทั้งๆที่ตอนแรกก็ถามไปว่าเจ็บไหม แต่การกระทำกลับสวนทางกับคำพูดสุดท้ายร่างบางก็ต้องยอมรับความเจ็บปวดที่เต็มไปด้วยความสุขเช่นนั้นมาไว้เองในที่สุด
            “อ่า!
            เสียงที่ปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหมดทั้งมวลภายในตัวของจงแดดังขึ้นมา ร่างหนาค่อยๆขยับทิ้งตัวนอนลงที่ผืนเตียงข้างๆกับที่ร่างบางเคยนอนอยู่ มือหนารั้งร่างของมินซอกให้ขึ้นมานั่งทับตักของเขาเอาไว้กลายเป็นว่าตอนนี้แฟนตัวเล็กของเขากำลังนั่งอยู่ด้านบนพร้อมกับค่อยๆขยับเรือนกายเข้าหาส่วนอ่อนไหวของเขาอยู่

          แสงจันทร์ที่ทอดเงาลงมาบนผืนทะเลที่อยู่ด้านหลังบ้านค่อยๆส่องแสงเข้ามาที่ร่างเพรียวระหงส์ทันทีที่มือของจงแดเลื่อนไปกดปิดสวิตซ์ไฟตรงข้างหัวเตียง ที่เป็นศูนย์รวมของไฟทั้งห้องจนดับมืด จนตอนนี้มีเพียงแค่แสงสว่างจากพระจันทร์เท่านั้นที่ทำให้เขายังเห็นอยู่ว่ามินซอกกำลังร่วมรักกับเขาอยู่ในท่าไหนในตอนนี้
            “อ๊ะ..อ๊ะ...จงแด เจ็บ”
            ร้องว่าเจ็บออกไปแต่เอวบางยังไม่หยุดขย่มกายลงมาสักที และทันทีที่ทั้งห้องมืดดับก็ไม่มีความจำเป็นอะไรทั้งสิ้นที่ร่างหนาที่กำลังนอนอยู่บนเตียงจะกลั้นเสียงร้องเอาไว้ ร่างสูงปลดปล่อยเสียงครางที่มาจากความพึงพอใจออกมา
            ปลายนิ้วยาวเลื่อนไปบดขยี้ที่ยอดอกของมินซอกพร้อมๆกันทั้งสองข้าง จนมันเริ่มแข็งสู้นิ้วของเขาแล้ว
            “ฮื้อออ..ไม่ไหวแล้ว อื้ออ..ฉันจะบ้าแล้วนะ” มินซอกร้องงอแงออกมา แต่ก็ไม่ยอมหยุดขยับร่างกายสักที
            มันเหมือนกับว่าเมื่ออารมณ์มันจุดติดขึ้นมาแล้วมันก็ยากที่จะดับมอดลงไปได้ในชั่วพริบตา สุดท้ายแล้วก็ต้องสนองอารมณ์ของตัวเองให้ถึงที่สุด ภายใต้แสงจันทร์ที่ยิ่งทำให้ฉากรักนี้ค่อนข้างที่จะอีโรติกเหลือเกิน มือของจงแดก็เอาแต่ลูบที่ข้างเอวคอดกิ่วไปมา
            ในขณะเดียวกันที่เมื่อแรงอารมณ์เริ่มโหมกระหน่ำมากยิ่งขึ้น สะโพกหนาก็รีบขยับขึ้นไปกระแทกสวนแรงๆสองสามทีจนในที่สุดน้ำมากมายก็พุ่งออกมากระเซ็นโดนหน้าท้องของจงแดจนเต็มไปหมด มินซอกน่าจะเสร็จสมไปแล้ว แต่เขายัง..
            “อื้อ..อีกนิดนะที่รัก ใกล้แล้ว”
            “ไม่ไหวแล้วนะ อื้ออ”
            “ลงไหมเดี๋ยวทำให้”
            “ม..ไม่ต้อง นายชอบให้ฉันอยู่ อ๊ะ..แบบนี้”
            มินซอกก็รู้ใจอีกคนไปเสียทุกอย่าง ทำให้สุดท้ายแล้วร่างบางก็เลือกที่จะโยกขยับอยู่บนเรือนกายของอีกคนจนถึงนาทีสุดท้ายที่เมื่อเริ่มรู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้วมินซอกก็ปล่อยมันออกมาอีกครั้งพร้อมกันกับจงแดที่ปลดปล่อยมันออกมาในกายของมินซอกเช่นกัน
            “อา...อื้มม...”
            “อีกไหม”
            “ว่าไงนะ” จงแดลืมตาขึ้นมามองอีกคนท่ามกลางความมืดเพียงเพราะรู้สึกตกใจที่อีกคนเลือกที่จะถามเขาออกมาเช่นนั้น
            “ปกติแล้วตอนที่นายเสร็จ นายชอบให้ฉันใช้มือช่วย ไม่ก็..ปาก..”
            “ไม่ต้องหรอก ฉันมันเห็นแก่ได้ แค่ได้อยู่กับนายอีกครั้งฉันก็พอใจแล้วลงมานอนเถอะเดี๋ยวฉันเช็ดให้นะ”

            จงแดจับร่างของมินซอกให้ลงมานอนข้างๆกัน ก่อนที่ร่างหนาจะทำเป็นลุกเดินลงจากเตียงไปแต่ทว่าในตอนนั้นเองมือบางรีบยื่นออกไปไปรั้งแขนของอีกคนเอาไว้แล้วกระชากเข้ามา เพื่อที่จะให้จงแดทิ้งตัวลงนอนข้างๆกันอย่าเพิ่งไปไหน 


กลับไปอ่านต่อที่ในเด็กดีนะจ๊ะ

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

➽ The Cat : Chanbaek ◆ As I kiss you again


➽ The Cat : Chanbaek ◆ As I kiss you again

            สิ้นเสียงของชานยอล ร่างสูงก็ออกแรงกระชากมือของแบคฮยอนเข้ามา ก่อนที่จะคว้าร่างให้อีกคนขึ้นมานอนทับบนตัวของเขา มือหนาเลื่อนขึ้นไปกดที่ท้ายทอยของแบคฮยอนให้ก้มลงมารับจูบอันร้อนแรงของเขาชนิดที่ว่าไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆที่เอ่ยขึ้นมาอีกหลังจากนั้น
            มืออีกข้างที่ไม่ได้กดท้ายทอยของแบคฮยอนเอาไว้ก็รีบเลื่อนผ่านลงไปที่บั้นท้ายกลมกลึงที่แอ่นขึ้นเหมือนกับว่าพยายามไม่ให้ส่วนนั้นของทั้งสองได้สัมผัสกัน มือหนาสอดล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นของแบคฮยอนจนกระทั่งมือที่เย็นเฉียบและหยาบกร้านสัมผัสเข้ากับแก้มก้นนิ่มๆของแบคฮยอน ร่างบางจึงดูเหมือนตกใจแต่ก็คงไปไหนไม่รอดแล้ว
            แบคฮยอนกำลังหลงในรสจูบของชานยอลเข้าให้แล้ว
“อื้ออ...”
“อ๊ะ..ฮือ อื้ออ”
            ร่างเล็กที่นอนทับกายหนาอยู่เอาแต่ส่งเสียงร้องออกมาเพราะความไม่เคยชินที่มือของอีกคนสาละวนอยู่ที่แก้มก้นของเขา ริมฝีปากของทั้งคู่เอาแต่ปล้ำจูบกันอยู่อย่างนั้นชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร เรียวลิ้นที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายเอาแต่แลกเปลี่ยนกันไปมาท่ามกลางเสียงของสายฝนที่ยังเทลงมาแบบไม่ขาดสาย
“ฮื้ออ พี่...”
            ชานยอลค่อยๆผละจูบออกมาพร้อมกับใช้มือที่บีบเนื้อก้นของแบคฮยอนอยู่ปลดกางเกงขาสั้นตัวน้อยลงไปจนมันไปคาอยู่ที่ข้อเท้าของแบคฮยอน นั่นจึงกลายเป็นว่าในตอนนี้ร่างบางไม่เหลือเสื้อผ้าอะไรติดตัวเลยแม้แต่ชิ้นเดียว มีก็แต่ชานยอลเท่านั้นที่ยังไม่ได้ถอดกางเกงของเขาออกไป
“ฮือ...แบคหนาว”
            อาจจะเป็นเพราะว่าแอร์ที่เปิดอยู่บวกกับอากาศด้านนอกที่เย็นเพราะสายฝนทำให้แบคฮยอนเลือกที่จะบ่นออกมา จนเมื่อชานยอลได้ยินร่างสูงเลยพลิกร่างให้แบคฮยอนนอนลงบนเตียงแล้วเป็นฝ่ายตวัดร่างขึ้นไปคร่อมกายของคนตัวเล็กทันที
“พ..พี่ชาน...เดี๋ยวก่อน”
“ว่า”
            ในขณะที่ชานยอลกำลังเริ่มที่จะวอแวร่างกายของแบคฮยอนต่อ จู่ๆร่างเล็กก็เอ่ยเรียกอีกคนขึ้น พร้อมกับฝ่ามือบางที่ดันหัวไหล่หนาของชานยอลเอาไว้ก่อน
“พี่จะไม่พูดอะไรเลย แม้กระทั่งตอนที่เราจะมีอะไรกัน?
            เพราะแบคฮยอนเห็นว่าพี่ชานไม่ค่อยพูดอะไรเลย แต่เน้นที่การกระทำมากกว่า ปากไม่พูดแต่มือของชานยอลกลับล้วงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว บางทีแบคฮยอนก็อยากที่จะได้ยินเสียงของพี่ชานยอลบ้างไม่ใช่มีแต่เสียงครางของเขาแต่เพียงผู้เดียว
“ต้องพูดว่าอะไรอ่ะ...”
“แบคไม่รู้”
“งั้นก็ไม่ต้องพูด” น้ำเสียงที่แข็งทื่อของชานยอลราวกับขวานผ่าซาก ไม่มีคำหวานอะไรหลุดออกมาจากปากเลยแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้ความอยากที่จะทำของแบคฮยอนติดลบไปอีก
            แต่เพราะบรรยากาศแบบนี้ถามว่ามันทำให้แบคฮยอนมีอารมณ์ไหมมันก็มี และเขาก็เชื่อว่าพี่ชานยอลก็มีเหมือนกันกับเขาดูได้จากก้อนเนื้อที่แข็งทื่อบดเบียดลงมาที่ต้นขาของเขาตลอดเวลา แบครู้ว่าพี่ชานยอลก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
“พี่ชานนน ฮืออ”
“อย่างอแง”
            เสียงบ่นของชานยอลเหมือนเป็นสิ่งที่หยุดเสียงทุกอย่างให้เงียบลงโดยเฉพาะเสียงของแบคฮยอน ร่างบางรีบเม้มปากเข้าหากันแน่น ก่อนที่จะจ้องมองไปที่ใบหน้าของชานยอลไม่วางตา จนกระทั่งคนทั้งสองหยุดความเคลื่อนไหว มีแค่เพียงเสียงฝนที่ดังอยู่นอกหน้าต่าง 
            ผ่านไปราวๆหนึ่งนาที ชานยอลก็เขยิบตัวเองไปคุกเข่าอยู่ที่ปลายเตียงโดยที่สายตาก็ยังมองมาที่เรือนร่างของแบคฮยอนไม่วางตา มือหนาเลื่อนไปจับที่กางเกงของตนเองเอาไว้ก่อนที่จะปลดมันออกท่ามกลางสายตาของแบคฮยอนที่เมื่อเห็นร่างสูงเปลือยเปล่าต่อหน้าก็ถึงกับต้องรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันที
“อ๊ะ!”
            ไม่รอช้าให้เสียเวลา ยิ่งฟ้าร้องดังมากเท่าไหร่ ชานยอลก็เริ่มรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ไหวมากขึ้นเท่านั้น ร่างสูงโถมตัวเข้าใส่แบคฮยอนทันทีแต่ครานี้ไม่เหมือนครั้งก่อนเมื่อชานยอลไม่ได้อ้อยอิ่งเหมือนตอนแรกแล้ว
            ร่างสูงเอาแต่จูบเข้าที่ริมฝีปากของแบคฮยอนอย่างหื่นกระหาย ราวกับเป็นคนอีกคนที่แบคฮยอนไม่รู้จัก แบคฮยอนไม่เคยเห็นพี่ชานยอลเป็นแบบนี้ ครั้งนั้นที่เรามีอะไรกันมันก็เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่คราวนี้แบคฮยอนรู้ตัวดีเสมอ
“อื้มม”
“อืมมมม”
            เสียงร้องอื้ออึงในลำคอของคนสองคนที่ส่งเสียงออกมาเพราะความพอใจในลีลาการจูบของกันและกัน ถึงแม้ว่าแบคฮยอนจะดูเหมือนเด็กน้อยที่ทำเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ส่วนชานยอลถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้บ่อยเท่ากับพี่ชายต่างแม่ของเขาอย่างคริส
            แต่เพราะความน่ารักและน่าทะนุถนอมของแบคฮยอน นั่นจึงทำให้เขาอดใจไม่ไหว และไม่อาจที่จะหยุดยั้งตัวเองไม่ให้รังแกน้องตัวเล็กคนนี้ได้เลย
“อื้ออ!” 
            แบคฮยอนถูกยกร่างให้ขึ้นมานอนทับอยู่บนตัวของชานยอลอีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้ทับเปล่าๆแต่ชานยอลกลับพยายามที่จะจับดุ้นเอ็นของตนเองนั้นถูไถไปตามซอกหลืบของร่องก้นแบคฮยอนอย่างเร็วไว เหมือนกับว่าคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยไหวแล้ว
“อึก..จ..ใจเย็นๆ แบคกลัว”
“อ่า...ไม่ไหวแล้ว”
            ชานยอลได้แต่หอบหายใจทางปาก ในยามที่ส่วนหัวของความอ่อนไหวของตัวเองพยายามที่จะแทรกเข้าไปที่ช่องทางด้านหลังของแบคฮยอนที่ครั้งหนึ่งตัวเขาเองก็เคยสัมผัสมันมาแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงความทรงจำสั้นๆ แต่อย่างนั้นคนที่เคยกระทำเช่นนี้กับแบคฮยอนก็คงจะมีชานยอลนี่แหละที่เป็นคนแรก
“อ๊ะ อ๊า...ช..ชานยอล ฮื้ออ”
“อ่า....”
            ดูเหมือนว่าชานยอลพยายามที่จะสอดใส่ส่วนนั้นเข้าไปในช่องทางนั้นได้อย่างสำเร็จ แบคฮยอนที่นั่งอยู่ด้านบนร่างของคนคนที่ตัวสูงกว่าได้แต่หยุดนิ่งเพื่อรอจังหวะที่ตัวเองคิดว่าไหว จนกระทั่งท่อนกายขนาดใหญ่นั้นพยายามกระเสือกกระสนเข้ามาลึกมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นจึงทำให้ร่างบางพยายามที่จะยกเอวออกแต่ก็ดูเหมือนว่าชานยอลจะไม่ให้อีกคนทำแบบนั้น
“ขยับสิ”
“ฮื้ออ กลัว”
            แบคฮยอนเอาแต่ส่ายหน้าไม่กล้าทำในสิ่งที่น่าอายเช่นนี้ต่อไป ถึงแม้ว่าห้องจะมืดและต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่าตัวเองนั้นต้องการกันและกันมากเพียงไหน แต่การที่จะให้แบคฮยอนเริ่มก่อนก็ดูเหมือนว่ามันจะน่าอายเกินไปหรือเปล่า ร่างบางได้แต่คิดกับตัวเอง
“แบค”
“อื้อ”
            ร่างบางรู้ดีว่าไม่ไหว ยิ่งได้ยินเสียงแข็งๆของชานยอลที่เอ่ยเรียกชื่อของตนออกมา เพียงเท่านั้นสะโพกงอนก็ค่อยๆยกขึ้นสูงแล้วออกแรงขย่มขึ้นลงบนท่อนกายของชานยอลอย่างช้าๆ สองสามครั้งแรกดูเหมือนว่าร่างเล็กจะไม่ชินจนร่างสูงต้องช่วยสวนขึ้นไป
            ผลัดกันกระแทกอีกคนก็ขย่มลงมาเรื่อยๆจนเมื่อจับจังหวะได้แบคฮยอนก็เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งกามอารมณ์เสียแล้ว ร่างบางเอาแต่ขยับช่องทางของตนเองให้เสียดสีกับส่วนนั้นของชานยอลตลอดเวลาจนเตียงขนาดใหญ่สั่นกระแทกกับผนังห้องจนเกิดเสียง
            เสียงร้องของคนทั้งคู่ที่ระบายออกมา ถ้าหากว่าไม่มีเสียงฝนแน่นอนว่ามันอาจจะดังไปจนถึงห้องข้างๆก็เป็นได้
“อื้อๆๆ”
            ชานยอลที่เอาแต่กัดปากกั้นความเสียวเอาไว้ เมื่อเห็นว่าร่างบางต้องการที่ระบายมากกว่านี้ ชานยอลจึงส่งนิ้วเรียวของตนเองขึ้นไปบีบยอดอกที่แข็งชูชันขึ้นมาบนแผงอกบางๆของร่างเล็กทันที
“อ๊ะ อ๊ะ ฮื้อออ”
            เสียงครางของแบคฮยอนเหมือนจะเลือกไม่ถูกว่าตัวเองกำลังเสียวเพราะท่อนเอ็นขนาดใหญ่หรือว่าเป็นเพราะนิ้วเรียวๆที่กำลังบดขยี้ยอดอกทั้งสองข้างของตนเองอยู่ เท่าที่รู้คือตอนนี้แบคฮยอนใช้ฟันบนกัดริมฝีปากร่างของตนเองจนจะได้เลือดอยู่แล้ว
“อ่า...อย่างนั้นแหละ”
            ชานยอลได้แต่สูดปากครางอย่างได้อารมณ์ ก่อนที่จะพลิกกายให้แบคฮยอนเป็นฝ่ายล้มตัวลงมานอนบนเตียงแล้วตัวเองเป็นฝ่ายอยู่ด้านบนแทน แกนกายที่หลุดออกมาจากช่องทางด้านหลังของแบคฮยอนจนเกิดเสียงดังขึ้นมา ช่างปลุกเร้าอารมณ์ของคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี
“อ๊ะ...ฮื้อออ..”
“เสียว?”
อื้อ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับ ก่อนที่จะส่งมือไปรูดรั้งที่ท่อนเอ็นของตัวเองอย่างรัวเร็วเพราะดูเหมือนว่าตัวเองนั้นใกล้ที่จะเสร็จสมเต็มทนแล้ว
“ฮื้ออ”
            เสียงร้องของแบคฮยอนเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง สองขาเรียวค่อยๆยกขึ้นตั้งฉากกับพื้นเตียงก่อนที่จะอ้าออกกว้างแล้วขยับข้อมือโดยไว เปลือกตาที่ปิดสนิทเพราะกำลังจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ นั่นจึงทำให้ร่างเล็กไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ใบหน้าของชานยอลได้เคลื่อนลงไปอยู่ที่ช่องทางด้านหลังของแบคฮยอนเข้าให้แล้ว
“พี่ชานอย่า!”
            แบคฮยอนรีบลืมตาขึ้นมาดูอีกคนที่ตอนนี้กำลังแลบลิ้นโลมเลียไปที่ช่องทางที่บอบช้ำนั้นอย่างไม่นึกรังเกียจ จนแบคฮยอนเองที่เป็นเจ้าของร่างกายยังรู้สึกกังวลไปเอง ไม่คิดว่าผู้ชายเจ้าระเบียบอย่างพี่ชานยอลจะลดตัวลงมาทำอะไรแบบนี้กับส่วนนั้นของเขา
“อย่าอะไร อื้ม”
            ในขณะที่กำลังตวัดลิ้นเลียที่คราบคาวของตัวเองที่เพิ่งฝากเอาไว้ที่ช่องทางของแบคฮยอน ร่างสูงก็ไม่วายส่งเสียงขึ้นมาถามอีกคนทันที
“ลิ้นพี่ อื้ออ...แข็งเกินไปแล้ว”
            ความเสียวเริ่มก่อตัวเมื่อลิ้นแข็งๆของชานยอลเริ่มสอดเข้าไปที่ช่องทางด้านหลังของเขาจนได้ แบคฮยอนห้ามอีกคนไม่ได้มือบางรีบสาวส่วนนั้นอย่างเร็วไว จนในที่สุดน้ำสีขาวขุ่นจากรูเล็กๆของส่วนนั้นก็ถูกปล่อยออกมาจนมันกระซ่านไปเลอะที่ใบหน้าของชานยอลเต็มๆ
“ฮึก...อื้อ....”
            เสียงหอบหายใจของแบคฮยอนยามที่ตัวเองเสร็จแล้วหนึ่งรอบ ร่างเล็กไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอทำอะไรออกไป จนกระทั่งใบหน้าที่หล่อเหลาเคลื่อนมาอยู่ในระดับเดียวกันกับใบหน้าของเขา และทันทีที่เปลือกตาบางลืมขึ้น โคมไฟสีส้มที่อยู่ข้างหัวเตียงก็สว่างขึ้นมาด้วยฝีมือของชานยอลที่เอื้อมมือไปเปิดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“พ..พี่ชาน...”
“รับผิดชอบกับสิ่งที่อยู่บนหน้าพี่ด้วย”
“ค่ะ...คือ แบค...ขอโทษ”
            รอยเปื้อนที่มาจากน้ำกามของแบคฮยอนที่เปรอะบนแก้มของชานยอลเป็นจุดๆ ทำให้ร่างเล็กรู้สึกอายตัวเองที่เผลอทำสิ่งที่น่าเกลียดออกไป ยิ่งแสงไฟจากโคมไฟสว่างขึ้นอีก นั่นยิ่งทำให้แบคฮยอนทำตัวไม่ถูก เขาอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้จัง
“เช็ด”
“อ...อ่า ทิชชูอยู่ไหน”
“ไม่ใช่ ไม่ได้ให้เช็ดด้วยทิชชู”
“แล้วจะให้แบคเช็ดด้วยอะไรล่ะ ฮือ”
ด้วยลิ้นของนาย
            พูดจบชานยอลก็ทิ้งตัวลงนอนหงายอีกครั้ง ส่วนแบคฮยอนที่ได้แต่นอนแก้มแดงเพราะคำพูดของอีกคนเมื่อตั้งสติได้ก็รีบขยับตัวเข้าไปหาอีกคนใกล้ๆ ก่อนที่จะใช้ศอกยันกับเตียงเอาไว้แล้วชะโงกหน้าไปหาชานยอลในระยะประชิดทันที
“แค่มือไม่ได้เหรอ...”
“ลิ้น”
“มือนะ...ได้ไหม”
“ฉันยังใช้ลิ้นของฉันเช็ดตรงนั้นให้นายได้เลย แล้วทำไมนายถึงเอาลิ้นเช็ดหน้าของฉันไม่ได้ หื้ม”
            ชานยอลออกแนวแกล้งแบคฮยอนด้วยสายตานิ่งๆ แต่จะถามว่าโกรธไหม ดูจากการกระทำแล้วคงไม่เพราะมือหนารั้งเอวบางให้ทิ้งตัวลงมานอนเกยร่างอยู่บนกายของเขาเป็นที่เรียบร้อย...
“ก็มันเขินนี่นา”
“เวลาเขินต้องทำยังไง”
“ม...ไม่รู้”
“ทำอีกรอบ
ห๊ะ!”
            แบคฮยอนไม่เคยคิด ไม่คิดเลยว่าพี่เขาจะเป็นคนแบบนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมาอิมเมจที่แบคฮยอนวาดชานยอลออกมาคือผู้ชายที่คงอยู่ในระเบียบ ไม่สนใจใคร ไม่วุ่นวายกับเรื่องที่ไม่ดี จนกระทั่งวันนี้ วันที่เขาได้ร่วมรักกับพี่ชานยอลอย่างจริงจัง มันทำให้แบคฮยอนรู้แล้วว่าลึกๆแล้วนั้นพี่ชานยอลเป็นผู้ชายที่
            หื่นมาก....

“เที่ยงคืนแล้ว...แบคว่าแบคควรกลับ” 


กลับไปอ่านต่อที่หน้าบทความนะคะ :)